สังเกตอย่างไรว่า..ผู้สูงอายุหูตึง
การสูญเสียการได้ยิน เป็นอีกหนึ่งปัญหาของวัยผู้สูงอายุ เนื่องจากหูชั้นในเกิดการเสื่อมของการได้ยินเพิ่มขึ้นตามอายุ แม้ว่าอาการหูตึงในผู้สูงอายุจะไม่เป็นโรคร้ายแรงอันตราย แต่ด้วยเป็นภาวะที่ค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ผู้สูงอายุเกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในการสื่อสารกับผู้อื่นน้อยลงโดยไม่รู้ตัว เกิดปัญหาระหว่างผู้ดูแลหรือคนในครอบครัวกับผู้สูงอายุได้ หากมีอาการรุนแรง นอกจากผลกระทบทางด้านร่างกายแล้ว การไม่สามารถสื่อสารกับคนรอบข้างได้อย่างเป็นปกติยังมีผลกระทบทางด้านจิตใจได้อีกด้วย
การสูญเสียการได้ยินที่พบบ่อย
– การติดเชื้อของหูชั้นกลาง (Otitis Media) หรือหูน้ำหนวก เป็นสาเหตุของการสูญเสียการได้ยินชั่วคราว มักพบในเด็ก
– การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงอึกทึก (Noise-Induced) เป็นสาเหตุของการสูญเสียการได้ยินชนิดถาวร
– สูญเสียการได้ยินเนื่องจากวัยชรา (Presbyacusis) มีการสูญเสียการได้ยินในช่วงเสียงที่มีความถี่สูง
สาเหตุบางอย่างของการสูญเสียการได้ยิน
– ความผิดปกติแต่กำเนิดจากสาเหตุทางกรรมพันธุ์
– มารดามีความผิดปกติขณะตั้งครรภ์, คลอด
– การติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส เช่น โรคไข้สมองอักเสบ คางทูม งูสวัด เป็นต้น
– การได้รับยาบางตัวที่ก่อให้เกิดพิษต่อประสาทหู เช่น ยาต้านมะเร็ง ยาปฏิชีวนะบางชนิด เป็นต้น
– การประกอบอาชีพ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
– อุบัติเหตุต่อศีรษะที่กระทบถึงประสาทหู
– โรคบางชนิด เช่น เนื้องอกของเส้นประสาทที่เกี่ยวกับการได้ยิน ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติ โรคแพ้ต้านทานตัวเอง โรคเบาหวาน โรคไต และโรคไขมันในเลือดสูง
– เสื่อมตามธรรมชาติ
อาการของการสูญเสียการได้ยิน
- ได้ยินเสียงเบาลง รู้สึกหูสองข้างได้ยินไม่เท่ากันหรือการรับฟังเสียงมีปัญหาเมื่ออยู่ในที่มีเสียงรบกวน
- ได้ยินเสียงพูดแต่ไม่สามารถเข้าใจคำพูดของผู้พูด
- ถามคำถามซ้ำๆ
- เปิดเสียงวิทยุหรือโทรทัศน์ดังกว่าคนที่มีการได้ยินปกติ
- ไม่สามารถเข้าใจเสียงคำพูดทางโทรศัพท์
- มีเสียงรบกวนในหูร่วมกับอาการหูอื้อ อาจมีอาการเวียนศีรษะร่วมด้วย
- ถูนิ้วที่ข้างหู
- พูดเสียงกระซิบ
- เสียงเข็มนาฬิกาเดิน
โทร. 032-322274-80 ต่อ 371, 375